-
- ชื่อ-นามสกุล (ภาษาไทย)ดร.เบญจพร มีพร้อม
- ชื่อ-นามสกุล (ภาษาอังกฤษ)ดร.BENJAPORN MEEPROM
- ตำแหน่งทางวิชาการ-
- ตำแหน่งปัจจุบันอาจารย์
- คณะ/หน่วยงานคณะศิลปศาสตร์
- โทรศัพท์0809990XXX
- E-Mail Addresbenjaporn@rmutt.ac.th
- สาขาวิชาการที่มีความชำนาญภาษาอังกฤษ
อัพเดทล่าสุด
07 ก.ค. 256800119จำนวนคนดู
ชื่อโครงการ | การใช้ระบบการประเมินผลออนไลน์เพื่อประเมินสมรรถนะทางภาษาในระบบการจัดการเรียนรู้ |
ชื่อโครงการภาษาอังกฤษ | The Utilisation of Online Language Assessment on Learning Management System (LMS) |
หน่วยงาน | |
หัวหน้าโครงการ | ดร.เบญจพร มีพร้อม |
ผู้ร่วมวิจัย | |
พี่เลี้ยง | |
ที่ปรึกษา | |
ปีงบประมาณ | 2564 |
คำสำคัญ | สมรรถนะทางภาษา การทดสอบออนไลน์ การทดสอบทางภาษาด้วยคอมพิวเตอร์ |
ผลลัพธ์ | |
บทคัดย่อ (ภาษาไทย) | |
บทคัดย่อ (ภาษาอังกฤษ) | |
หลักการและเหตุผล | การบริหารจัดการในการสอบวัดผลทางการศึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ต้องมีค่าใช้จ่ายในการสอบแต่ละครั้งค่อนข้างสูง จากข้อมูลในเอกสารการประชุมกรรมการบริหารคณะศิลปศาสตร์ ประจำภาคการศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 1 แสดงให้เห็นว่าเพียงค่าใช้จ่ายในส่วนของกระดาษและการจัดพิมพ์เอกสารมีต้นทุนที่สูง ซึ่งหากโดยเฉลี่ยแล้ว หากต้นทุนการใช้การจัดพิมพ์ข้อสอบมีต้นทุนอยู่ที่ 1 บาทต่อแผ่น การจัดสอบปกติในแต่ละครั้ง หากคิดตัวอย่างจากจำนวนนักศึกษาระดับปริญญาตรี สังกัดคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จำนวน 596 คน (ข้อมูลรายงานในระบบทะเบียนการศึกษา ณ วันที่ 14 เมษายน 2563) สำหรับแต่ละรายวิชา คิดจากข้อสอบ 10 แผ่น จะเกิดค่าใช้จ่ายถึง 5,960 บาท ทั้งนี้ หากคิดต้นทุนการจัดสอบสำหรับ 7 รายวิชาซึ่งเป็นจำนวนวิชาปกติที่นักศึกษาลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคการศึกษา จะเกิดต้นทุนค่าจัดพิมพ์ข้อสอบโดยเฉลี่ยถึง 41,720 บาทต่อภาคการศึกษา หรือ 83,440 บาทต่อปีการศึกษา หรือ 333,760 บาทตลอดหลักสูตร และหากคิดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการจัดสอบสมรรนะทางภาษาสำหรับสาขาวิชาชีพซึ่งข้อสอบแต่ละชุดประกอบด้วยข้อสอบ 20 แผ่นโดยประมาณ (สำหรับข้อสอบปรนัย) จะทำให้เกิดต้นทุนที่เพิ่มเข้ามาโดยเฉลี่ยต่อหนึ่งวิชาถึง 11,920 บาท และคิดเป็น 47,680 บาท ตลอดหลักสูตร คิดรวมเป็น สาขาวิชาหนึ่งมีต้นทุนการจัดพิมพ์ข้อสอบสำหรับการทดสอบหลักประจำปีการศึกษาโดยเฉลี่ยประมาณ 381,440 บาทตลอดหลักสูตรเป็นอย่างน้อย นอกจากนั้น การรู้ผลสอบที่ล่าช้า การตรวจข้อสอบที่อาจมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน หรือเกิดต้นทุนอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เครื่องตรวจข้อสอบและผู้ตรวจข้อสอบ หรือแม้แต่เวลาของอาจารย์ที่ต้องลงทุนในการตรวจช้อสอบ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นประเด็นที่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้ในทันทีสำหรับข้อสอบปรนัย ด้วยเทคโนโลยีที่สนับสนุนการศึกษาที่มหาวิทยาลัยฯ มีไว้ให้อยู่แล้ว เช่น ระบบการเรียนรู้ออนไลน์แบบระบบปิด อย่าง Dlearn (Customized Moodle) และยังเป็นอีกทางที่สามารถสร้างนิสัยให้นักศึกษาคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีและการฝึกความรับผิดชอบการเข้าสอบและเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่จะเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานในศตวรรษที่ 21 ให้ประสบความสำเร็จ ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ภาคการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาเองต้องปรับตัวและพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน เพื่อให้การจัดการศึกษามีคุณภาพที่เหมาะสมตามสถานการณ์ของประเทศและสถานการณ์โลก รวมถึงได้ใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด การสร้างแบบทดสอบให้เป็นระบบทดสอบออนไลน์ (e-testing) จึงเป็นการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สามารถวัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในรูปแบบดิจิทัลให้ทันทีมาประยุกต์ใช้ให้การจัดสอบปรนัยในแต่ละครั้งลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยที่ผู้เรียนจำเป็นต้องรับผิดชอบตนเองในการเข้าทำแบบทดสอบผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน ที่เชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตให้เป็นที่เรียบร้อย |
วัตถุประสงค์ | 1. พัฒนาระบบการจัดการสอบสมรรถนะทางภาษาออนไลน์ที่เหมาะสมกับผู้สอบโดยส่วนรวม 2. ศึกษาประสิทธิภาพระบบทดสอบสมรรถนะทางภาษาออนไลน์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญุบุรีที่มีเสถียรภาพสามารถเข้าถึงได้ทุกช่องทางออนไลน์ 3. ศึกษาปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อการจัดสอบออนไลน์สมรรถนะทางภาษาในสภาพแวดล้อมที่ไม่จำกัดการเข้าถึงโดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ต่างกันและสถานที่สอบที่ต่างกัน |