-
- ชื่อ-นามสกุล (ภาษาไทย)ผศ.ดร.กนกอร เวชกรณ์
- ชื่อ-นามสกุล (ภาษาอังกฤษ)ผศ.ดร.Kanokorn Wechakorn
- ตำแหน่งทางวิชาการผู้ช่วยศาสตราจารย์
- ตำแหน่งปัจจุบันผู้ช่วยศาสตราจารย์
- คณะ/หน่วยงานคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- โทรศัพท์0982596XXX
- E-Mail Addreskanokorn_w@rmutt.ac.th
- สาขาวิชาการที่มีความชำนาญ
อัพเดทล่าสุด
09 ก.ย. 256600039จำนวนคนดู
ชื่อโครงการ | การพัฒนานวัตกรรมซีโอไลต์ที่มีรูพรุนขนาดกลางที่ห่อหุ้มของเหลวไอออนิกกัวนิดิเนียมเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ต้นแบบสำหรับกำจัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟล์จากก๊าซชีวภาพในระดับอุตสาหกรรม |
ชื่อโครงการภาษาอังกฤษ | Innovative Development of Mesoporous Zeolite-encapulated Guanidinium-based Ionic liqiuds as a prototype equipment for removal of hydrogen sulfide from commercial biogas plants |
หน่วยงาน | |
หัวหน้าโครงการ | ผศ.การันต์ บ่อบัวทอง |
ผู้ร่วมวิจัย |
1. ผศ.กนกอร เวชกรณ์ |
พี่เลี้ยง | |
ที่ปรึกษา | |
ปีงบประมาณ | 2562 |
คำสำคัญ | ก๊าซชีวภาพ, ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์, ของเหลวไอออนิก, วัสดุรูพรุนขนาดกลาง |
ผลลัพธ์ | |
บทคัดย่อ (ภาษาไทย) | |
บทคัดย่อ (ภาษาอังกฤษ) | |
หลักการและเหตุผล | ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดและมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนเริ่มปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้ทรัพยากรดังกล่าวเป็นการใช้ทรัพยากรทางเลือกรูปแบบใหม่เช่น ก๊าซชีวภาพ (biogas) พลังงานแสงอาทิตย์ (solar energy) และพลังงานลม (wind energy) อย่างเป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น รัฐบาลหลายประเทศให้การสนับสนุนการวิจัยและการลงทุนในทุกภาคส่วนเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงใดเชื้อเพลิงหนึ่งมากเกินไป อันจะนำไปสู่ความมั่นคงทางด้านพลังงานของชาติในอนาคต ดังปรากฏการสนับสนุนจากทางภาครัฐบาลทั้งด้านการวิจัยระดับห้องปฏิบัติการ และการติดตั้งอุปกรณ์ผลิตพลังงานทางเลือกเพื่อใช้งานจริงทั้งในครัวเรือน, ชุมชน, และอุตสาหกรรมต่างๆ ก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานทางเลือกที่ยั่งยืนสามารถผลิตได้จากกระบวนการย่อยสลายของสารประกอบอินทรีย์โดยจุลลินทรีย์ในสภาวะปราศจากออกซิเจน ซึ่งสารปะกอบอินทรีย์เหล่านั้นได้แก่ เศษอาหาร ขยะ มูลสัตว์ ซากพืชซากสัตว์ เป็นต้น ก๊าซชีวภาพนั้นประกอบด้วยก๊าซมีเทน (CH4) ร้อยละ 45-70 ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ร้อยละ 25-50 และ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) ละอองน้ำ ไซลอกเซน ร้อยละ 5-10 [1-7] โดยคุณสมบัติของก๊าซชีวภาพที่สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในระดับอุตสาหกรรม (Natural-gas quality) นั้นจำเป็นต้องลดปริมาณก๊าซชนิดอื่นๆลงจนความเข้มข้นของก๊าซมีเทนสูงประมาณร้อยละ 95-97 ตามขั้นตอนในรูปที่ 2 ถึงจะทำให้ก๊าซชีวภาพสามารถให้ค่าความร้อนสูงและใช้ทดแทนการเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆได้เป็นอย่างดี ปัญหาที่พบเมื่อใช้ก๊าซชีวภาพที่ผ่านกระบวนปรับปรุงคุณภาพที่ไม่ได้คุณภาพ และถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงที่หัวเผาสำหรับหม้อน้ำหรือหม้อน้ำร้อนที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเช่น การจุดเตาไม่ติด การระเบิดในห้องเผาไหม้ในขณะจุดเตาหรือในขณะเดินเครื่อง เปลวไฟกระพือและดับในขณะกำลังเร่งไฟ กำลังผลิตของหม้อน้าหรือหม้อน้ำร้อนไม่ได้ตามข้อกำหนด (Specification) ของเครื่องจักร อุปกรณ์ทุกชนิดที่สัมผัสก๊าซชีวภาพชำรุดง่ายและมีอายุ การใช้งานสั้น การเกิดไฟไหม้จากการแตกรั่วของระบบสูบส่งก๊าซ เป็นต้น [1] ดังนั้นการปรับปรุงและควบคุมคุณภาพก๊าซชีวภาพ (biogas upgrading) จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและขาดเสียมิได้ในการขจัดปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น |
วัตถุประสงค์ | 1 ออกแบบของเหลวไอออนิกชนิดใหม่ที่เหมาะสมในการดูดซับก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟล์ 2 ออกแบบซีโอไลต์เพื่อใช้เป็นวัสดุรองรับของเหลวไอออนิก 3 สังเคราะห์ซีโอไลต์ที่ห่อหุ้มของเหลวไอออนิก 4 ออกแบบเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาการดูดซับก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟล์ด้วยซีโอไลต์ที่ห่อหุ้มของเหลวไอออนิก 5 ทดสอบประสิทธิภาพการดูดซับก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟล์ซีโอไลต์ที่ห่อหุ้มของเหลวไอออนิก 6 นำอุปกรณ์ที่สร้างได้ไปใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆที่สร้างขึ้นภายใต้หน่วยวิจัยเดียวกันเพื่อใช้งานจริงในระดับชุมชน และอุตสาหกรรม 7 เผยแพร่ความรู้และฝึกอบรม ให้กับชุมชน หรือ โรงงานอุตสาหกรรมด้านพลังงาน |